เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์ของโลก ณ ตอนนี้ ไม่เป็นปกติ จากปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจนนำมาสู่ผลกระทบในเรื่องของการขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับนำมาประกอบอาหาร
แน่นอนว่าหากผู้ใดอยู่ในแวดวงของธุรกิจนี้ย่อมกุมขมับไปตาม ๆ กัน คิดว่าจะทำอย่างไรให้ผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้ ก็ในเมื่อขาดแคลนวัตถุดิบที่จะทำอาหารจะให้ทำอย่างไร เช่นเดียวกับเบอร์เกอร์คิงในประเทศญี่ปุ่นที่ไม่พ้นชะตาเดียวกันกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่ต้องขาดแคลนมันฝรั่ง จนต้องตัดสินใจเปลี่ยนมาเสิร์ฟเมนู “ราเม็งกรอบ” แทนที่เฟรนช์ฟรายส์
.
“เบอร์เกอร์คิง” ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในญี่ปุ่นเริ่มขาดแคลนมันฝรั่งเพื่อที่จะมาทำเฟรนช์ฟราย ด้วยเหตุนี้ทางร้านจึงขอลูกค้าเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นมาทดแทน นั่นคือ “ราเม็งกรอบ”
ตามรายงานของ CBS News ระบุว่า เบอร์เกอร์คิงในญี่ปุ่นได้เปลี่ยนเมนูอาหารจากเดิมที่จะเป็นเบอร์เกอร์เสิร์ฟคู่กับเฟรนช์ฟรายเปลี่ยนมาเป็นเบอร์เกอร์เสิร์ฟคู่กับราเม็งกรอบ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันฝรั่ง และเบอร์เกอร์เป็นวัตถุดิบหลัก แต่ญี่ปุ่นยังคงพึ่งพาการนำเข้าจากสหรัฐฯ และด้วยสต๊อกที่ลดน้อยลงจึงส่งผลกระทบต่อการผลิต
สำหรับเบอร์เกอร์คิงเปิดสาขาในญี่ปุ่นมากกว่า 150 แห่ง ได้ใช้วิธีแก้ปัญหาขาดแคลนมันฝรั่ง จนกว่าสินค้าใหม่จะส่งมาถึง อย่างไรก็ตาม มีลูกค้าที่ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่อีกมุมหนึ่งที่แสดงไม่เห็นด้วย โดยบอกว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ยั่งยืน และมีบางรายบอกว่าจะเปลี่ยนไปกินแบรนด์อื่นเลยก็มี
ไม่เพียงแต่เบอร์เกอร์คิง ยังแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดรายอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาเหมือนกันกับการขาดแคลนวัตถุดิบจนเกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และอุปสงค์ที่สูงกว่าที่คาดไว้ เช่น เคเอฟซีในออสเตรเลียแจ้งกับลูกค้าว่าขอใช้ผักกาดหอม และกะหล่ำปลีผสมในอาหาร